วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ก็มันใส่ไม่ได้อะ

วัดแถวบ้านมีงานประจำปีจัดขึ้นปีละครั้ง ในงานก็มีทั้งออกร้าน มีชิงช้าสวรรค์ ยิงเป้า ปาลูกดอก เมียงู สารพัด ที่ขาดไม่ได้คือ เวทีรำวง กับเวทีมวย
เพื่อความครึกครื้น ปีนี้มรรคทายกวัด เลยจัดเวทีมวยติดกับเวทีรำวง พอตกค่ำ สาวรำวงก็ออกมาเต้นเชวิบชวาบ วับวับแวมๆ กระโปรงสั้นจู๋เสื้อรัดติ้ว
บรรดาหนุ่มๆกลัดมันมายืนออกันหน้าเวทีรำวงแน่นขนัดเป็นที่สนุกสนาน มรรคทายกก็ให้สัญญาณเวทีมวยเริ่มเปรียบคู่ชก เสียงปี่มวยดังเร้าใจทันใด
พอเปรียบมวยเสร็จ โฆษก ก็ประกาศให้นักมวยขึ้นชก กรรมการบนเวทีก็ขึ้นมาเตรียมพร้อม แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่มีนักมวยขึ้นมาซักคน เสียงคนเชียร์มวย
คนพนันมวยก็เริ่มโห่ด้วยความไม่พอใจ โฆษกก็รีบประกาศ
เอ้า นักมวย จะสละสิทธิ์ก็แจ้งมา แฟนมวยเริ่มโห่แล้ว จะได้ให้คู่อื่นขึ้นมาแทน
เดี๋ยวครับ เดี๋ยวครับ อีกแป๊บเดียว ....เสียงพี่เลี้ยงมุมแดงตอบกลับมา
มุมน้ำเงินล่ะ พร้อมยัง ขึ้นเวทีมาเลย....โฆษกหันไปถาม
ยังครับ ยังแต่งตัวไม่เสร็จครับ.....พี่เลี้ยงมุมน้ำเงินตอบ
อะไรวะ เรียกตั้งนานแล้ว จะแต่งหล่อไปไหนวะ มาชกมวยนะเนี่ย ....โฆษกเริ่มยั๊วะ
คือ เอ่อ คือ คือ
คืด เคอไร วะ อ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละ จะชกไม่ชกก็ว่ามา....โฆษกโกรธจัด
คือนักมวยมันใส่กระจับไม่ได้อะครับ มะกี๊มันมัวดูแดนเซอร์รำวง ตอนนี้ยังชี้เด่อยู่เลยครับ

วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553

มันไม่ใช่กรรไกรของหนู

สายบุษบาเป็นช่างเย็บเสื้อ เธอชอบไปนั่งทำงานอยู่ในสวนหลังบ้านริมสระน้ำ เช้าวันหนึ่ง เธอทำกรรไกรตัด
ผ้าตกลงไปในสระน้ำ เธอไม่สามารถลงไปงมเอาขึ้นมาได้จึงนั่งร้องไห้อย่างน่าสงสารเพราะกรรไกรนั้นเป็น
เพียงสมบัติที่เธอใช้ทำมาหาเลี้ยงชีพ เทพารักษ์องค์หนึ่งปรากฏกาย เมื่อซักไซร้ไล่เรียงถึงสาเหตุแล้วเทพา
รักษ์จึงกระโดดลงไปในสระ งมกรรไกรทองประดับเพชรขึ้นมาส่งให้สายบุษบา

สายบุษบา : มันไม่ใช่กรรไกรของหนูค่ะ

เทพารักษ์กระโดดลงไปในสระอีกครั้งหนึ่ง งมกรรไกรเงินที่ประดับด้วยพลอยและจินดาส่งให้

สายบุษบา : มันไม่ใช่กรรไกรของหนูเช่นกันค่ะ

เทพารักษ์กระโดดลงไปในสระเป็นครั้งที่สาม งมกรรไกรสเตนเลสขึ้นมาเล่มหนึ่งส่งให้สายบุษบา

สายบุษบา : ค่ะ เล่มนี้แหละค่ะของหนู

เทพารักษ์เห็นความซื่อสัตย์ของเธอจึงได้ยกกรรไกรทั้งสามเล่มแก่เธอ สายบุษบามีความสุขในชีวิตอยู่หลาย
ปี จนกระทั่งวันหนึ่ง สายบุษบากับสามีไปเดินเล่นในสวนข้างสระน้ำ บังเอิญสามีของเธอพลัดตกลงไปในสระ
เธอไม่รู้จะช่วยเขาได้อย่างไรจึงได้แต่นั่งร้องไห้อย่างน่าเวทนา เทพารักษ์องค์เดิมปรากฏกาย

สายบุษบา : สามีของหนูตกลงไปในสระ หนูไม่สามารถช่วยเขาได้

เทพารักษ์กระโดดลงไปในสระแล้วดึงเอา เขตต์ ฐานทัพ ขึ้นมา

เทพารักษ์ : นี่ใช่สามีหนูหรือเปล่า ?

สายบุษบา : ค่ะ ใช่ค่ะ นี่คือสามีหนูค่ะ

เทพารักษ์ : คนโกหก นี่ไม่ใช่สามีหนู หนูจะต้องถูกเราลงโทษ

สายบุษบา : ขอได้โปรดเถอะค่ะ ที่หนูต้องโกหกก็เพราะความจำเป็นค่ะ ถ้าหนูบอกว่าเขาไม่ใช่สามีหนู
ท่านก็คงกระโดดลงไปในสระแล้วนำ ณัฐวุฒิ สกิดใจ ขึ้นมา ถ้าหนูบอกว่าไม่ใช่สามีหนูอีก ท่านก็จะกระ
โดดน้ำเป็นครั้งที่สามแล้วนำสามีของหนูขึ้นมา ท่านจะเห็นว่าหนูเป็นคนซื่อสัตย์อีก ท่านคงยกคนทั้งสาม
ให้เป็นสามีหนู หนูไม่ไหวค่ะ เพราะช่วงนี้สุขภาพของหนูไม่ค่อยจะดีค่ะ หนูจึงต้องบอกรับคนแรกเลยค่ะ

อย่าทำซ่ากับคุณครู

ณ โรงเรียนมัธยมเสาะหาทิศ คุณครูประจำชั้นบอกกับนักเรียนในชั้น ม. 5 ซึ่งมีนายบุญโอ๋ วัยรุ่นจอม
แก่นนั่งเรียนอยู่ด้วย

คุณครู : พรุ่งนี้เป็นวันสอบไล่ ครูหวังว่านักเรียนทุกคนคงเตรียมตัวเป็นอย่างมาดีแล้วใช่ไหมคะ ?

นักเรียน 1 : ค่ะ หนูเตรียมพร้อมแล้วค่ะ

คุณครู : ครูอยากจะเตือนว่า นักเรียนทุกคนอย่าได้ขาดสอบเป็นอันขาด ครูจะไม่รับฟังข้อแก้ตัวใดๆ
ทั้งสิ้นเว้นแต่ว่าจะมีเหตุร้ายจริงๆเท่านั้น

นักเรียน 2 : คุณครูครับเหตุร้ายที่ว่ามีตัวอย่างไหมครับ ?

คุณครู : ก็เช่นมีการระเบิดของลูกระเบิดนิวเคลียร์ หรือคุณพ่อคุณแม่ของนักเรียนตายกระทันหัน
หรือไม่ตัวนักเรียนเองที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นต้น กรณีเช่นที่ว่านี้จึงจะขอขาดสอบได้

บุญโอ๋ซึ่งนั่งอยู่แถวหลังสุดของชั้นยกมือขึ้น

คุณครู : อ้าว นายบุญโอ๋ สงสัยอะไร ?

บุญโอ๋ : คุณครูครับ คือว่า...ถ้าหากผมได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการปฏิบัติการทางเพศที่หักโหมมาก
เกินไป ผมจะขาดสอบได้ไหมครับ ?

คุณครู : ครูว่าการบาดเจ็บของเธอก็คงมีแค่มือขวาเท่านั้นหรอก เธอใช้มือซ้ายเธอเขียนสอบได้นี่คะ

ไหนว่าไม่มีตำรวจงัย

หลังจากเกษียณอายุแล้ว บุญญฤทธิ์ก็อาศัยอยู่กับภรรยาแต่เพียงลำพังที่บ้านย่านรังสิต
เพราะลูกๆต่างก็มีครอบครัวและแยกย้ายกันไป คืนวันหนึ่ง ขณะที่เขากำลังจะเข้านอน

ภรรยา : คุณลืมปิดไฟสนามหญ้าหน้าบ้าน เห็นไหม ? ตอนนี้ความจำคุณเลอะเลือน

บุญญฤทธิ์ : ผมตั้งใจเปิดทิ้งไว้เองแหละ มันจะได้กันขโมย แต่จะให้ปิดก็ได้

เขาลุกจากเตียงเดินเปิดประตูบ้านออกไป พักเดียวเขาก็รีบวิ่งเข้ามา

บุญญฤทธิ์ : ผมออกไปปิดไฟไม่ได้ ผมได้ยินเสียงคนอยู่ในโรงรถกำลังค้นหาสิ่งของ

ภรรยา : เห็นไหมความคิดคุณมันไม่ได้ผล ตอนนี้ความคิดความอ่านคุณก็ถดถอย

บุญญฤทธิ์ไม่ตอบ เขาหันไปหยิบโทรศัพท์โทรให้ 191ทันที

บุญญฤทธิ์ : ฮัลโหล ผมบุญญฤทธิ์ อยู่บ้านเลขที่ 555 ซอยสันติสุข ย่านรังสิตคลองสี่
ตอนนี้มีขโมยอยู่ในโรงรถบ้านผม ช่วยส่งตำรวจมาหน่อย

ตำรวจ : ขอโทษครับ ตอนนี้ไม่มีตำรวจอยู่ที่โรงพักเลย ทุกคนออกไปปฏิบัติหน้าที่กัน
หมดแล้ว ให้คุณป้องกันตัวเองโดยล็อกประตูบ้านให้แน่นหนาเข้าไว้ เดี๋ยวค่อยโทรมา
ใหม่อีกครั้งหนึ่งมีเผื่อตอนนั้นจะมีตำรวจว่างไปดูให้

หลังจากวางหูได้ 3 นาที เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรให้ 191 อีกครั้งหนึ่ง

บุญญฤทธิ์ : ฮัลโหล ผมบุญญฤทธิ์ เมื่อสักครู่ที่โทรมาขอกำลังตำรวจเรื่องมีขโมยอยู่
ในโรงรถบ้านผม แต่ตอนนี้ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจัดการยิงมันเรียบร้อยแล้ว

เพียงไม่ถึง 10 นาที รถสายตรวจ 4 คัน รถพยาบาล 1 คัน รถร่วมกตัญญู 1 คัน รถ
ปอเต็กตึ๊ง 1คัน วิ่งเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ทั้งหลายกรูกันเข้าไปในโรงรถ จับ
ผู้ชายแต่งตัวซอมซ่อได้คนหนึ่งจึงใส่กุญแจมือไว้ บุญญฤทธิ์เดินออกไปพบ

ตำรวจ : ก็ไหนคุณบอกว่าคุณยิงมันแล้วไง

บุญญฤทธิ์ : ก็ไหนคุณบอกไม่มีตำรวจยังไง

สิ่งดีๆจากความผิดหวัง

บุญสมรกับบุญแสมนั่งคุยกันในวงกาแฟที่สวนสาธารณะตามปกติของเช้าวันอาทิตย์

บุญสมร : พักนี้ไม่ค่อยเห็นบุญสมานมาที่สวนนี้เลยนะ

บุญแสม : ได้ยินว่าช่วงนี้เขากำลังปวดหัวกับเรื่องลูกชายของเขาที่ไม่ยอมไปทำงาน

บุญสมร : เออ แล้วลูกชายของคุณเป็นไงบ้าง ส่วนลูกชายของผมได้เป็นผู้จัดการฝ่าย
ขายของบริษัทพากันรวย เงินเดือนๆละตั้งห้าหกแสนตอนนี้สบายมากๆเลย ผมได้ยิน
ว่าเมื่อเร็วๆนี้เขาซื้อรถเบนซ์สปอร์ตสีแดงเอาไว้ใช้อีกคันหนึ่งด้วย

บุญแสม : โอ้โห ดีจัง ยินดีด้วยนะ ลูกชายของผมก็ไม่ใช่ย่อยหรอกนะ เขาได้รับตำ
แหน่งเป็นอธิบดีขณะที่เขาอายุเพียง 40 ปีเท่านั้น เมื่อไม่นานมานี้เขาบอกผมว่าเขา
ได้ซื้อบ้านหลังใหญ่ในหมู่บ้านอยู่เป็นสุขอีกหลังหนึ่งแน่ะ

ทันใดนั้น ทั้งสองก็มองเห็นบุญสมานเดินหน้ามุ่ยเข้ามา

บุญสมร : เฮ้ย บุญสมาน เป็นไงบ้าง ? ดูถ้าทางไม่คอยสบายใจ มีปัญหาอะไรหรือ ?

บุญสมาน : แย่ว่ะ แย่จริงๆเลย อ้ายลูกชายของผมนะซีมันไม่ยอมไปทำงานและแถม
ยังเป็นเกย์อีกต่างหาก แต่ว่า....ยังดีอยู่หน่อยตรงที่....

บุญแสม : มันจะดีอย่างไงวะ ที่ว่ามาไม่เห็นมีดีสักอย่าง

บุญสมาน : ดีตรงที่เขามีแฟนรวย แฟนเขาคนหนึ่งซื้อบ้านหลังใหญ่ให้เขาหลังหนึ่ง
แฟนอีกคนหนึ่งของเขาซื้อรถเบนซ์สปอร์ตสีแดงให้เขาคันหนึ่งนะซี นั่นแหละทำให้
เขาไม่ต้องทำงาน

ภรรยามือใหม่

สายนิภาเป็นสาวชาวจังหวัดสุราษฏร์ธานี แม้เธอจะเกิดที่นี่แต่เธอไปเรียนหนังสือและเติบใหญ่
อยู่เสียในกรุงเทพ เมื่อเรียนจบและได้งานทำอยู่ในกรุงเทพจนมั่นคงดีแล้วเธอก็ได้ตัดสินใจแต่ง
งานกับแฟนหนุ่มที่รักใคร่กันมานาน ในวันแต่งงาน บรรดาญาติผู้ใหญ่พร้อมกับคุณแม่ของเธอ
ก็ขึ้นมางานที่กรุงทพด้วย

หลังงานเลี้ยงเสร็จก็มีพิธีส่งตัวเจ้าสาวเข้าหอ คุณแม่ของสายนิภาจูงมือเธอออกไปยืนคุยกันที่ระ
เบียงห้องแต่เพียงลำพังพร้อมทั้งยื่นชะลอมใบหนึ่งให้กับเธอ

คุณแม่ : เมื่อจะเข้านอน ให้หนูกราบสามีทุกครั้งนะ เพราะเขาจะเป็นผู้นำของครอบครัว

สายนิภา : ค่ะแม่

คุณแม่ : ของในชะลอมนี้เอาให้สามีกินก่อนนอนนะ

สายนิภา : มันคืออะไรอ่ะแม่ ?

คุณแม่ : อ๋อ มันคือหอยนางรมสุราษฏร์อย่างไรล่ะ เขาว่าสรรพคุณมันดีนัก ถ้าผู้ชายกินหอย
นางรมนี้มันจะออกฤทธิ์ทำให้มีพลังเซ็กส์ อย่าลืมนะแล้วพรุ่งนี้แม่จะมาฟังผล

หลังจากสั่งสอนเรียบร้อยแล้วบรรดาผู้ใหญ่ต่างก็กลับบ้านเพื่อพักผ่อน เช้าวันรุ่งขึ้นคุณแม่แวะ
มาเยี่ยมสายนิภา

คุณแม่ : เป็นไงบ้างล่ะ หอยนางรมมันออกฤทธิ์ดีไหมลูก ?

สายนิภา : ไม่ดีเท่าไหร่เลยแม่ หนูให้เขากิน 12 ตัว มันออกฤทธิ์แค่ 6 เท่านั้นแม่

เจ้าบ่าวเจ้าสาวกล่าวคำในใจ

บุญภู่กับสายสมุทรต่างก็เป็นคนอำเภอแกลง จังหวัดระยอง เขาทั้งสองรักใคร่กันมาหลายปี
ในที่สุดก็ได้ตัดสินใจแต่งงาน งานแต่งงานจัดอย่างยิ่งใหญ่ที่หน้าที่ว่าการอำเภอ มีผู้หลักผู้
ใหญ่ ญาติสนิทมิตรสหายมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะเพื่อนๆของทั้งเจ้าบ่าวและ
เพื่อนๆของเจ้าสาวซึ่งต่างก็เป็นคนต่างถิ่นเสียส่วนใหญ่ หลังจากเสิร์ฟอาหารแล้วก็เป็นช่วง
พิธีการ มีการสวมพวงมาลัยให้แก่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวเพื่อเป็นศิริมงคล เจ้าภาพฝ่ายชายขึ้น
กล่าวอวยพรและให้โอวาท ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงขึ้นกล่าวอวยพรและให้โอวาท จากนั้นโฆษก
ได้ขอให้เจ้าบ่าวได้พูดความรู้สึกในใจ เนื่องจากบุญภู่อยากแสดงความเป็นคนเจ้าบทเจ้า
กลอนตามประสาคนเมืองแกลงให้สมกับเป็นลูกหลานสุนทรภู่

บุญภู่ : วันนี้ดีใจจะได้เมีย

หลังจากได้เสียมาหลายหน

คราวนี้มีเมียเป็นตัวตน

ขอบคุณทุกคนที่มางาน

เสียงตบมือและหัวเราะดังกึกก้องทั่วงาน โฆษกเชิญให้เจ้าสาวขึ้นไปกล่าวความในใจเป็น
ลำดับถัดมา และเพื่อไม่ให้น้อยหน้าในฐานะที่เป็นชาวเมืองแกลงด้วย

สายสมุทร : วันนี้ดีใจที่ได้ผัว

หลังจากเสียตัวมาหลายหน

คืนนี้ได้ผัวเป็นตัวตน

ก่อนนี้กี่คนไม่เคยจำ